กระแสของเกม Assassin’s Creed Shadows ในตอนนี้ต้องบอกว่ามาแรงสุดๆ แต่ขณะเดียวกันก็มีเสียงตอบรับแง่ลบจากกลุ่มคนที่พยายามหาหลักฐานไม่ว่าจะเท็จหรือจริงมาหักล้างกับภาพของเกมที่ว่า ยาสึเกะ บุคคลในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อนนั้นไม่ได้เป็นซามูไร เมื่อความเกลียดชังที่ฝังรากลึกมานานถูกขุดสันดอนถอนสันดานมาแบบนี้ จึงไม่แปลกครับหากเราจะพบว่าแม้กระทั่งสื่อวิดีโอเกมด้วยกันยังยอมจ่ายมนุษยธรรมเพื่อชื่อเสียงที่เกิดจากการด่าทอเกมนี้
แน่นอนว่าในเมื่อเป็นประเด็นที่สั่นสะเทือนวงการ การต่อต้านภายใต้สังคมอันเป็นประชาธิปไตยที่ถูกคนมีสิทธิ์ออกเสียงก็ย่อมร้อนแรงตามปกติวิสัย โดยไม่นานมานี้หากสังเกตให้ดีจะพบว่า มีการก่อตั้งแคมเปญบน Change.org เพื่อเรียกร้องให้ Ubisoft พิจารณายกเลิกการวางจำหน่ายเกม จากผู้ใช้งานคนหนึ่งชื่อว่า Shimizu Toru และตั้งเป้าการลงรายชื่อที่ 30,000 คน ก่อนจะทะลุเป้าและกำลังวิ่งเข้าสู่ระดับ 50,000 คนในเวลาสั้นๆ ทำเอาหลายคนต่างหยิบยกมาชี้ให้เห็นว่า ‘นี่แหละนะ! เสียงของคนญี่ปุ่นจริงๆ’ อย่างไรก็ตามล่าสุดดูเหมือนว่าจะมีคนไปพบเบื้องหลังของแคมเปญนี้แล้ว
ZhugeEX นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมเกมคนดังได้ออกมาเปิดเผยบนหน้าโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่าหากเราเข้าไปชมหน้า Change.org ดังกล่าว จะพบว่าความเห็นจำนวนมากนั้นเป็นภาษาอังกฤษเสียส่วนใหญ่และบางคนเองก็เป็นชาวตะวันตกเสียด้วยซ้ำไป แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแคมเปญนี้เองมีโอกาสสูงทีเดียวที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนญี่ปุ่นอย่างที่เข้าใจ เพราะถ้าเข้าไปยังเว็บไซต์ Wayback Machine ที่เป็นเครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์ย้อนหลัง จะพบว่าภาษาเริ่มต้นของแคมเปญเรียกร้องนี้มันเป็นภาษาเยอรมัน เหตุนี้จึงทำให้ผู้คนเริ่มสงสัยว่าถ้าอย่างนั้นแล้วใครกันแน่คือผู้ที่จุดเชื้อเพลิง แล้วถ้ามีเจตนาดีจริงจะเริ่มต้นแคมเปญด้วยการโกหกเชื้อชาติของตนเองตั้งแต่แรกทำไม?
เมื่อมีการนำภาพอีกมุมมาเผยแบบนี้ มหกรรมแฉก็เลยเกิดขึ้นอีกต่อ บ้างก็หยิบวิดีโอของกลุ่มผู้ที่ลงชื่อมาวิจารณ์กันว่าภาพของคนตะวันตกที่พูดว่า ‘วาตาชิ วะ เกมเมอร์’ แบบนี้มันคือการล้อเลียนคนเอเชียเสียเองหรือเปล่า ซึ่งการกระทำนี้ในมุมของพวกเขานั้นเห็นเป็นสิ่งที่ร้ายแรงยิ่งกว่าการที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครในประวัติศาสตร์กับเกมที่จำลองเหตุการณ์เสียอีก นอกจากนั้นแล้ว ก็มีการจับผิดเพิ่มเติมด้วยว่ายังมีนายคนหนึ่งแอบอ้างว่าตนเป็นทหารตะวันตกที่ประจำการอยู่ในจังหวัดโอกินาว่าอีกต่างหาก
เกมเมอร์เชิงกระแดะ ความก้าวหน้าที่ขาไม่ก้าวตาม
กว่าวิดีโอเกมจะมาถึงจุดนี้ที่เราได้เห็นเทคโนโลยีก้าวหน้าถ่ายทอดประสบการณ์ที่สวยงามสมจริง ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งต่างๆ ย่อมเกิดขึ้นจากการที่ผู้พัฒนาต้องการที่จะผลักดันขีดจำกัดของความล้าหลังจาก ‘เกม’ ที่เป็นการละเล่นทั่วไปอย่าง วิ่งไล่จับ การเล่นไพ่ มาสู่เครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อครั้งที่ Tennis for Two ได้เกิดขึ้นบนหน้าจอเครื่องวัดสัญญาณไฟฟ้าเมื่อสักราว 60 กว่าปีก่อน นั่นก็เป็นหมุดหมายสำคัญแห่งยุคสมัยใหม่ของการละเล่น และคนที่เรียกตนเองว่าเกมเมอร์ล้วนต้องขอบคุณความคิดที่ก้าวหน้านี้ที่ทำให้มันต่อยอดมาเป็นเกมที่เราได้เล่นกันไม่ใช่หรอ แถมหนึ่งในนั้นคือผลผลิตที่มาเป็นเกมที่คุณๆ หลายคนอาจจะกำลังด่ากันอยู่
วันเวลาผ่านไปเหมือนใบไม้ที่ผลัดออกจากต้นไม้ เหตุใดกันหนอหลายคนจึงยังไม่สามารถสลัดความคิดล้าหลังที่ถูกฝ่ายขวาที่ถ่วงดุลออกได้ ผมมองว่าสิ่งนี้ความกระแดะที่พวกเขาเลือกโอบรับเทคโนโลยี อยากเล่นของเล่นใหม่แต่ใจก็ยังเหมือนกับสัตว์สี่เท้าที่พยายามเดินหน้าด้วยขาหลังมันเลยย่ำได้อยู่กับที่อย่างน่าสังเวช ทั้งที่ความหลากหลายมันคือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของความเป็นสมัยใหม่ที่ทุกคนได้อยู่ในสังคมอันเท่าเทียม แต่ตอนนี้กลายเป็นคนคนเดียวกันนี่แหละ กำลัง Exclude ตัวละครคนดำ ลามไปจนถึงตั้งทฤษฎีสมคบคิดที่เข้ารกเข้าพงไปใหญ่ว่าบุคคลในประวัติศาสตร์อาจจะเป็นเกย์ พุทโธ ธัมโม สังโค คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! นี่มันเป็นปัญหา Identity Crisis หรือเปล่า (ซ้ายไม่จริง ขวาไม่แท้) แต่อย่างว่า ผมมั่นใจในคำว่าสื่อเท่าเทียม ที่คนในวงการเกมสามารถเลือกที่จะถ่ายทอดแนวคิดซ้ายจัด ขวาจัดได้อย่างอิสระ เพราะมันควรเป็นความคิดของผู้รับสื่อมากกว่าที่จะหาสมดุลความเชื่อของตัวเอง จุดนี้ขอยอมให้เวลาพวกเขาค้นหาตัวตนให้ได้ และจะเอาใจช่วยด้วย
ท้ายที่สุดแม้ ZhugeEX แนะนำว่าเราจะต้องไม่หลงประเด็นเรื่องความเที่ยงตรงทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ปฏิเสธได้ยากว่าเรื่องการดูหมิ่นเชื้อชาตินั้นยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับผู้ที่มีความเชื่อเป็นฝั่งอนุรักษ์นิยมในตะวันตก (รวมไปถึงคนไทยหัวใจญี่ปุ่นที่ อิ๊นอิน… กับเหตุการณ์นี้เหลือเกิน) บุคคลเหล่านี้ยังคงติดหล่มกับคำว่า ไอ้มืด หรือคำหยาบคายต่างๆ ที่ดูถูกคนใดๆ ก็ตามที่นับเป็นส่วนหนึ่งของสังคมใหญ่ๆ ที่เรียกว่าโลกใบนี้ ในฐานะนักเขียน นักวิจารณ์ หรือสื่อ หรือไอ้อี อะไรก็แล้วแต่ที่คุณผู้อ่านจะเรียกผม ผมคงตอบไม่ได้ว่าควรจะทำอย่างไร หากทำได้คงพูดว่าขอให้ความรัก ความเข้าใจ เป็นเครื่องนำทางให้ความขัดแย้งหลอมละลายไปสู่การโอบรับความแตกต่างของกันและกันครับ
เกี่ยวกับ Assassin’s Creed Shadows
เกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC ในวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยเป็นภาคใหม่ของเกมแฟรนไชส์ภาคีนักฆ่าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาคอื่นของซีรีส์นี้โดยตรง ซึ่งเรื่องราวจะให้เรารับบทเป็นตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริงตามประวัติศาสตร์คือ ‘ยาสึเกะ’ นักรบแอฟริกันที่เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้ติดตามของไดเมียวมือฉกาจ โนบุนางะ โอดะ ถือว่าเป็นภาคที่น่าสนใจมากที่จะได้สัมผัสบรรยากาศแห่งแดนปลาดิบครับ
Assassin’s Creed Shadows Ubisoft